top of page

DESIGN for SOCIAL IMPACTS

อ อ ก แ บ บ เ พื่ อ ส ร้ า ง ส ร ร ค์ สั ง ค ม

ทำไมคนทรงเจ้าจึงทำให้คนหลงใหล

มารู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า ‘charisma’ กันดีกว่า


ทำไมคนทรงเจ้าจึงทำให้คนหลงใหล?

 

01 คา-ริส-มา (charisma) เป็นคุณสมบัติที่ไม่ได้เกิดขึ้นในคนทุกคน คาริสมาส่งผลให้คนอื่นๆ รอบข้างรู้สึกถึงความอบอุ่น เกิดความปีติยินดี หรือมีแรงบันดาลใจ แต่คาริสมาก็อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงลบในการจูงใจผู้คน ควบคุมบงการผู้อื่น และแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองได้อย่างแนบเนียน


คาริสมาเป็นคุณสมบัติที่ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกถึงความ ‘เหนือธรรมชาติ’ หรืออำนาจ ‘เหนือมนุษย์’

นักสังคมวิทยาชาวเยอรมันชื่อ Max Weber บอกว่าคาริสมาเป็นคุณสมบัติที่ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกถึงความ ‘เหนือธรรมชาติ’ หรืออำนาจ ‘เหนือมนุษย์’ แต่อันที่จริงคาริสมานั้นอาจแทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตของเราอย่างกลมกลืนมากกว่านั้น


 

02 เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องประชุมหรือในงานสัมมนา เราอาจรู้สึกได้ถึงความมีเสน่ดึงดูดของพิธีกร เมื่อเรานั่งอยู่ในวงสนทนากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ เราอาจพบว่าเพื่อนของเราบางคนมีความสามารถในการดึงดูดให้คนอื่นๆ ตั้งใจฟังคำพูดของเขา ทุกคนในวงกำลังรอคอยให้เขาพูดอะไรบางอย่าง และถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าทุกคนมักพากันจ้องมองเพื่อนคนนั้นอยู่บ่อยๆ


ในโลกที่การแข่งขันสูงมากอย่างทุกวันนี้ คาริสมามีความสำคัญต่อการสร้างการรับรู้ของผู้คนอย่างมาก

ในโลกที่การแข่งขันสูงมากอย่างทุกวันนี้ คาริสมามีความสำคัญต่อการสร้างการรับรู้ของผู้คนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่ พนักงานที่ต้องการเติบโตในสังคมการทำงาน บริษัทที่กำลังมุ่งเป้าให้ตนเองยึดครองตลาด หรือแม้แต่สินค้าและบริการที่ต้องการครองใจผู้บริโภค คาริสมาจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาออกห่างไปจากเขาได้




ถ้าพูดในแง่ศิลปะ งานออกแบบที่ดีก็มักจะมีสิ่งที่เรียกว่าคาริสมานี้อยู่เสมอ


 

03 เคล็ดลับของการเกิดคาริสมาอาจเป็นไปได้ 2 รูปแบบ



ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้คนจะมองเห็นได้ก่อนเป็นอันดับแรก

แบบที่หนึ่ง คาริสมาแบบที่เริ่มต้นจากการพัฒนาภาพลักษณ์ของ ‘ตนเอง’ ให้ดูโดดเด่น น่าเชื่อถือ น่าเคารพ น่าติดตาม เพราะภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้คนจะมองเห็นได้ก่อนเป็นอันดับแรก







การที่ผู้คนจะรักหรือชอบอะไรอาจไม่ยั่งยืนนักหากในระยะยาวพบว่าความชอบนั้นไม่เกิดประโยชน์กับตัวเขา

แบบที่สอง (ซึ่ง SolidSprout คิดว่าน่าแปลกใจกว่ามาก) ไม่ได้เริ่มต้นที่ภาพลักษณ์ของ ‘ตนเอง’ แต่โฟกัสของมันกลับเริ่มต้นที่ ‘คนอื่น’


คาริสมาแบบที่สองนี้มีฐานคิดมาจากความเชื่อที่ว่า การที่ผู้คนจะรักหรือชอบอะไรอาจไม่ยั่งยืนนักหากในระยะยาวพบว่าความชอบนั้นไม่เกิดประโยชน์กับตัวเขา การสร้างคาริสมาแบบที่เริ่มต้นจาก ‘คนอื่น’ นี้จึงมุ่งที่การทำให้ผู้คนรู้สึกถึงคุณค่าของตนเอง การไม่ถูกทอดทิ้งให้รู้สึกโดดเดี่ยว การสร้างความรู้สึกปลอดภัย และส่งเสริมพลังในการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้ทุกคน


การเริ่มต้นลงมือทำสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นก่อนนั่นเอง ที่เป็นเคล็ดลับของคาริสมาที่ยั่งยืนในแบบที่สอง

มันคือการเริ่มต้นลงมือทำสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นก่อนนั่นเอง ที่เป็นเคล็ดลับของคาริสมาที่ยั่งยืนในแบบที่สองนี้


ถ้าถามว่าคนทรงเจ้าที่เรารู้จักมีคาริสมาแบบไหน เราอาจไม่มีคำตอบสำเร็จรูปให้ เพราะในหลายครั้งเราอาจพบคนที่มีคาริสมาแบบที่หนึ่งหรือแบบที่สองชัดเจน ในขณะที่หลายคนอาจมีคาริสมาทั้งสองแบบปะปนกันก็ยังได้


SolidSprout

#ออกแบบเพื่อสร้างสรรค์สังคม


⚡ ติดต่อเรา : 061 491 8292

✅ Line : http://line.me/ti/p/~solidsprout (ID: solidsprout)

✉️ Email : info@solidsprout.com

🌎 เยี่ยมชมเว็บไซต์ : www.solidsprout.com

bottom of page